พังแน่!! ถ้าไม่ยกรถแบบนี้

---

การยกรถมีขั้นตอนสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม! ถ้ายกรถผิดวิธี อาจทำให้รถเสียหายหนัก อ่านบทความนี้เพื่อรู้วิธียกรถอย่างถูกต้องและปลอดภัย! 🔧

เมื่อเราจะตรวจเช็คหรือทำการซ่อมแซมบางอย่างที่อยู่ใต้รถยนต์แน่นอนว่าจะต้องทำการยกตัวรถขึ้นซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้านั้นต่างกันเพราะไม่สามารถทำการยกได้เหมือนรถยนต์ทั่วไป ตามคู่มือของ Emergency Response Guide Tesla ได้แนะนำวิธีการยกรถยนต์ไฟฟ้าไว้ว่า

ควรเริ่มจากการตรึงก่อน

1. หนุนล้อ

รถสามารถเคลื่อนที่ได้เงียบๆ ดังนั้นต่อให้เราไม่เหยียบคันเร่ง รถก็ยังเคลื่อนที่ได้อยู่ แม้ว่าจะเปลี่ยนเป็นโหมดจอด (P) แล้วก็ตาม ให้ตระหนักเสมอว่ารถอาจจะเคลื่อนที่ได้แม้ว่าล้อจะถูกหนุนด้วยตัวหนุนล้อรถอยู่

2. ใส่เกียร์รถไว้ในโหมดจอด (P)

 เนื่องจากรถสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างเงียบๆ ดังนั้นอย่าชะล่าใจในขณะที่เครื่องยนต์ปิดอยู่ การเหยียบคันเร่งเพียงเล็กน้อยสามารถทำให้รถเร่งความเร็วได้อย่างรวดเร็ว เพื่อให้แน่ใจว่าใส่เกียร์จอดเข้าที่แล้ว ให้ใช้เกียร์เป็นแบบขับเคลื่อนหรือถอยหลัง โดยกดปุ่มแบบสัมผัสหนึ่งครั้งเพื่อเปิดใช้งานแถบเกียร์ และกดอีกครั้งเพื่อเปลี่ยนเป็นเกียร์จอด (P) แถบเกียร์จะสว่างขึ้นและแผงหน้าปัดจะแสดงเกียร์เป็นโหมดจอด (P)

การทรงตัว / จุดยก

แบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงสูงใต้ถาดวางพื้นที่ด้านล่าง ส่วนใหญ่บรรจุแบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงสูง เมื่อทำการยกหรือทำให้ยานพาหนะมั่นคงให้ใช้เฉพาะบริเวณยกที่กำหนด ดังที่แสดงเป็นสีเขียว

• สีเขียว : บริเวณยกที่เหมาะสม

• สีเหลือง : จุดป้องกันการสั่นไหวที่ปลอดภัยสำหรับยานพาหนะที่วางตะแคง

• สีส้ม : แบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงสูง

• ระวัง โปรดระมัดระวังอย่าให้แบตเตอรี่เสียหายขณะทรงตัว/ยกรถ

• ระวัง การยกหรือควบคุมยานพาหนะควรทำเฉพาะในกรณีที่เจ้าหน้าที่ได้รับการฝึกอบรมในระดับช่างเทคนิคตามข้อกำหนดการฝึกอบรมอัคคีภัยแห่งชาติและคุ้นเคยกับจุดที่สามารถยกได้ของตัวรถ ใช้ความระมัดระวังไม่ให้สัมผัสกับแบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงสูงหรือส่วนประกอบไฟฟ้าแรงสูงอื่น ๆ ขณะยกหรือควบคุมยานพาหนะ

ระวัง อย่าใช้แบตเตอรี่แรงดันสูงเพื่อยกหรือทำให้ยานพาหนะมั่นคง

.

ข้อมูลจาก https://www.tesla.com/firstresponders